บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดตัวนวัตกรรมหมูชีวา แบรนด์ยูฟาร์ม เป็นหมูมีโอเมกา 3 สูง ที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ พัฒนาอาหาร และวิธีการเลี้ยงตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ต่อยอดจากมาตรฐานปศุสัตว์โอเคของกรมปศุสัตว์ ตามแนวทางอาหารปลอดภัยของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้รับการรับรองจาก NSF และเพิ่งคว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมจากงาน THAIFEX - Anuga Asia 2020 โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นประธานในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และมี น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้เกียรติร่วมงาน
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกและสหกรณ์ กล่าวว่า นโยบาย 3S เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ ประกอบด้วยกรอบการทำงานเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร (Safety) ความมั่นคงทางอาหาร (Security) และความยั่งยืนภาคเกษตร (Sustainability) ที่จะสนับสนุนและมุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการผลิตอาหารที่ดีและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค ขณะที่ซีพีเอฟถือเป็นภาคเอกชนที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบาย 3S โดยเป็นทั้งผู้ผลิตอาหารปลอดภัย ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ประเทศ และต่อยอดนวัตกรรมไปถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหาร “หมูชีวา” ซึ่งป็นการเพิ่มทางเลือกที่ดีสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างน่าชื่นชม
ด้าน น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้วาง “มาตรฐานปศุสัตว์โอเค” ซึ่งเป็นการกำกับดูแลการผลิตอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตั้งแต่ต้นทาง คือ ฟาร์ม โรงชำแหละ และจุดจำหน่าย รวมทั้งตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายอาหารปลอดภัยให้ผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ดี โดยซีพีเอฟเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ทั้ง 100% รวมทั้งมาตรฐานด้าน Animal welfare หรือหลักสวัสดิภาพสัตว์ ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี “หมูชีวา” จึงเป็นต้นแบบของศักยภาพผู้ประกอบการไทยที่มีการวิจัยพัฒนาและต่อยอดนำไปสู่นวัตกรรมอาหารของไทยที่ไม่แพ้ชาติอื่นในโลก
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า อาหารเพื่อสุขภาพยังคงเป็นที่นิยมและมีความต้องการบริโภคเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแบรนด์ยูฟาร์มก็ประสบความสำเร็จอย่างมากกับผลิตภัณฑ์ไก่เบญจา จึงได้ทำการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง กระทั่งพบความสำเร็จอีกครั้งกับนวัตกรรม “เนื้อหมูชีวา” เนื้อหมูที่อุดมด้วยโอเมกา 3 สูง ซึ่งสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ทั้งใส่ใจในสุขภาพและให้ความสำคัญต่อหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare)
“เนื้อหมูชีวาเป็นนวัตกรรมเนื้อสัตว์ที่เราทำการพัฒนาหมู ตั้งแต่สายพันธุ์ อาหารที่เลี้ยง ตลอดจนวิธีการเลี้ยง เพื่อให้ได้มาซึ่งเนื้อหมูโอเมกา 3 สูง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยมีงานวิจัยรองรับ ตลอดจนได้รับการรับรองมาตรฐานการเลี้ยงจาก NSF ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำในด้านการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระดับนานาชาติ และคว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมอาหารจากงานแสดงสินค้าอาหารระดับโลก THAIFEX–Anuga Asia 2020” นายประสิทธิ์กล่าว
ดร.ไพรัตน์ ศรีชนะ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิชาการอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ กล่าวเสริมว่า ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมอาหารสัตว์ อาหารของหมูชีวามีความพิเศษและแตกต่างจากอาหารหมูทั่วไป เนื่องจากใช้ซูเปอร์ฟูดอย่างเมล็ด flaxseed น้ำมันปลา และสาหร่ายทะเลลึก มาเป็นวัตถุดิบในสูตรอาหาร เพื่อเป็นแหล่งของโอเมกา 3 ให้หมูชีวาสามารถสะสมสร้างสุขภาพได้สำเร็จ
สำหรับด้านการเลี้ยงหมูชีวา จากพื้นฐานสำคัญของฟาร์มมาตรฐานปศุสัตว์โอเคของกรมปศุสัตว์ ซีพีเอฟได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดภายในฟาร์มระบบปิดที่มีการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดและเป็นโรงเรือนปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ ส่งผลให้หมูชีวาอยู่สบาย แข็งแรง ไม่ป่วย นอกจากนี้ยังเลี้ยงหมูชีวาใน “คอกขังรวม (Group Pen)” ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ให้แม่พันธุ์อุ้มท้องมีอิสระในการเคลื่อนไหวและมีปฏิสัมพันธ์กับสุกรตัวอื่นๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือไม่มีการใช้สารเร่งการเจริญเติบโต ปราศจากสารเร่งเนื้อแดง และไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดู จึงมั่นใจได้ว่าหมูชีวาปลอดภัยและเหมาะมากสำหรับทุกคนในครอบครัว
ด้าน รศ.นพ.กัมมาล กุมาร ปาวา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า แนวคิด “การกินอาหารเป็นยา” หรือ “Food as Medicine” เป็นทางเลือกของการกินอาหารเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี และจากผลการทดสอบในสัตว์ทดลองบ่งชี้ว่าเมื่อสัตว์ทดลองกินอาหารที่ปรุงจากผลิตภัณฑ์จากหมูชีวา (น้ำมันหมู) ปริมาณไขมันในกระแสเลือด ซึ่งประกอบด้วย โคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ และ LDL นั้น มีปริมาณต่ำกว่าสัตว์ทดลองกลุ่มที่กินอาหารที่ปรุงจากน้ำมันมะพร้าวอย่างมีนัยสำคัญ